บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ของสเปนต้องเจอกับปัญหามากมายในฤดูกาลนี้ และต้องขับเคี่ยวในการลุ้นตำแหน่งแชมป์ลาลีกา สเปน ในฤดูกาลนี้ แต่ทีมไม่สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและทำออกมาได้อย่างสม่ำเสมอได้ ยิ่งสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ยังดูเป็นรองเรอัล มาดริด อยู่นิดหน่อย เมื่อทีมเสียเปรียบในเรื่องของเฮดทูเฮด ซึ่งจะกระทบต่อตำแหน่งแชมป์อย่างชัดเจน หากเก็บคะแนนไปได้เท่ากัน
แม้บาร์ซ่าจะต้องเจอกับความผิดหวังหลายอย่าง แต่ทีมก็ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ลาลีกา และยูฟ่า แชมเปี้นยส์ลีก เมื่อเจอกับนาโปลี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และบุกไปเสมอที่สตาดิโอ ซาน เปาโล ด้วยสกอร์ 1-1 และอีกหนึ่งความคาดหวังของทีมก็คือ การที่เหล่าดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ เหมือนกับเป็นตัวจุดประกายให้กับดาวรุ่งในลา มาเซีย ที่สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ได้
ฟาติ วัย 17 ปี ได้รับโอกาสลงสนาม หลังอุสมาน เดมเบเล่ ปีกค่าตัวแพงของสโมสรต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอด ในขณะที่ปูอิกอาจจะได้รับโอกาสลงสนามน้อยกว่า เมื่อลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง และต้องเจอกับการแข่งขันกับนักเตะหลายคน แต่ด้วยสถานการณ์ของทีมในปัจจุบันที่ต้องแข่งขันตามโปรแกรมอย่างหนัก ทำให้กิเก้ เซเตียน นายใหญ่ของทีมต้องมีการโรเตชั่นนักเตะลงสนาม ทำให้ฟาติและปูอิกจะได้รับโอกาสอย่างแน่นอน
เซเตียนแทบจะไม่ต้องคิดอะไรมากในการส่งทั้งคู่ลงสนาม เมื่อฟาติและปูอิกมีศักยภาพอยู่ในตัว แต่ขาดเพียงโอกาสในการลงสนาม รวมถึงการสร้างความเข้าใจในการเล่นกับทีมชุดใหญ่ เพื่อซึมซับปรัชญาในการทำทีม รวมถึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการลงสนาม ในขณะที่ทีมใกล้ถึงยุคเปลี่ยนแปลงเต็มที เมื่อลีโอเนล เมสซี่ เลิกเล่น หรือย้ายออกจากทีมไปในอนาคต และสุดท้ายแล้วก็เลี่ยงไม่ได้ที่ทีมยังคงต้องการนักเตะที่มีปรัชญา หรือดีเอ็นเอในการลงเล่นให้กับทีมต่อไป
จากอาการบาดเจ็บของแฟร้งกี้ เดอ ยอง และอาร์เธอร์ ที่เป็นข่าวกับการย้ายไปยังยูเวนตุสอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อาร์ตูโร่ วิดัล และอิวาน ราคิติช ก็ยังถูกลือเกี่ยวกับการย้ายออกจากทีม ยิ่งทำให้เป็นโอกาสที่ดีในการลงสนามของฟาติและปูอิก ในขณะที่เดมเบเล่ก็ยังไม่พร้อมลงสนามให้กับทีมในเวลานี้ และสุดท้ายก็เชื่อได้เลยว่า ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับโอกาสลงสนามมากหรือน้อยขนาดไหน แต่ประโยชน์ที่ออกมาก็จะเป็นของทีมอย่างแน่นอน