ดิเอโก้ มาราโดนา เพิ่งจะได้กลับมาที่สโมสร โบคา จูเนียร์ ในฐานะโค้ชของสโมสร กิมนาเซีย ลา พลาต้า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อลงแข่งขันในเกมลีก และทางตัวของ อดัม บาเต้ นักข่าวของสำนักข่าว Sky Sport ก็ได้รายงานถึงผลตอบรับทางอารมณ์ของแฟนบอลที่มีต่อ “ไอคอน” ระดับตำนานของโบ คา รายนี้อย่างมาก ซึ่งแต่ตำนานจอมทัพหมายเลข 10 ของทีมรายนี้ได้กลับมายังถิ่นเดิมของเขา เสียงเฮมันก็ดังกึกก้องเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าคิดก็คือในเกมนี้ มาราโดนา ได้เจอกับโจทก์เก่าของเขาด้วย นั่นคือ ฆวน โรมัน ริเคลเม่ ตำนานเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ซึ่งเขาเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานคนที่สองของสโมสร …
นัดสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งที่ยอดเยี่ยมของ ดิเอโก้ มาราโดนา ในสีเสื้อของทีม โบคา จูเนียร์ (คำรบ 2) นั่นก็คือการลงเล่นในศึก “ซูเปอร์คลาซิโก้” ซึ่งโบคาได้เจอกับ ริเวอร์เพลท ที่สนาม โมนูเมนทัล โดยในเกมนั้น เขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม และนักเตะที่ลงเล่นแทนที่ตัวของเขา ก็ดันทำประตูได้ด้วย เด็กหนุ่มคนที่ลงเล่นแทน มาราโดน ในวันนั้นคือความหวังใหม่ของทีมเลย นั่นก็คือตัวของ ฆวน โรมัน ริเคลเม่ ในสมัยยังเป็นวัยรุ่น ริเคลเม่ เป็นเพลย์เมกเกอร์หนุ่มน้อยที่มีลีลาการเล่นที่ยอดเยี่ยม และได้เทิร์นโปรในระดับอาชีพในเกมนั้น โบคา เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 2-1
สุดสัปดาห์นี้ มาราโดนา ไปกลับไปยัง “บอมโบเนรา” ซึ่งเป็นสนามกีฬาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของ โบคา ในฐานะโค้ชของทีมฝ่ายตรงข้าม “กิมนาเซีย ลา พลาต้า” มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ เพราะด้วยการแข่งขันนัดที่เหลืออีกหนึ่งนัดเท่านั้น โบคา มีแต้มตามหลัง ริเวอร์เพลท เพียงแต้มเดียวเท่านั้น โดยในเกมนี้พวกเขาต้องชนะและหวังว่าคู่แข่งสุดเก่าแก่และไม่มีวันเผาผีกันได้อย่าง ริเวอร์เพลท จะพ่ายแพ้ แต่ถึงแม้จะมีแรงกดดันอยู่มาก แต่แฟนบอลก็ยังตื่นเต้นเสมอที่ตำนานของพวกเขากลับมาเยือนทีมเก่าแบบนี้
แต่หนนี้ มาราโดนา ได้กลับมายังสโมสรด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะความบาดหมางของเขากับ ริเคลเม่ ที่ยังคงกรุ่นๆอยู่ตลอดเวลา โดยมันต้องย้อนกลับไปเมื่อกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งตำนานหมายเลข 10 ของโบคาคู่นี้ได้เม้งแตกใส่กัน ก่อนหน้านี้ ริเคลเม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอคอนของ โบคา ได้พยายามหนุนหลังตัวของ ฆอร์เก้ อามีล ให้ดำรงตำแหน่งประธานของทีมมากกว่าจะเป็นตัวของเขาขึ้นมาเป็นประธาน ซึ่งการสนับสนุนตัวของ อามีล ได้เกิดขึ้นในการเลือกตั้งประธานสโมสรเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่สโมสรแห่งนี้ มาราโดนา เป็นอีก 1 คนที่ออกโรงคัดค้านการสนับสนุนทีมงานของ อามีล แต่ว่าเพราะชัยชนะที่ตัวของ อามีล ได้รับมานั้น มันทำให้ มาราโดนา ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ อามีล ได้เลือกตัวของ ริเคลเม่ เข้ามาทำงานเป็นรองประธานอันดับที่ 2 ด้วยซะอีก
ความยิ่งใหญ่ของ “พี่เตี้ย”
โนเอเลีย กาสโก้ ไกด์นำทัวร์สนามกีฬา บอมโบเนรา เคยพูดเอาไว้เช่นกันว่า มาราโดนา ไม่ได้กลับมาเยี่ยมสโมสรตั้งแต่ปี 2015 แต่ตัวของ “ดัลมา” ลูกสาวคนโตของเขา ได้มาเข้าร่วมชมเกมการแข่งขันมากกว่าพ่อตัวเองด้วยซ้ำไป เธอมาเป็นประจำ ภายในพิพิธภัณฑ์ของสโมสรมีจิตรกรรมฝาผนังที่อุทิศให้กับช่วงเวลาของ มาราโดนา ที่เคยรุ่งโรจน์อย่างมากกับทีม โบคา จูเนียร์ ภายใต้ความบาดหมางระหว่างตัวของ มาราโดนา กับตัวของ ริเคลเม่ มันคงแทบจะไม่มีอะไรมาเป็นกาวใจให้ทั้งคู่กลับมาคืนดีกันได้เลยจริงๆ และที่สนาม บอมโบเนรา มันก็มีการสร้างรูปปั้นของ 2 ตำนานวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรเอาไว้เคียงข้างกันด้วย ซึ่งมันเป็นรูปปั้นของ มาราโดนา และ ริเคลเม่ ที่ยืนอยู่เคียงข้างกันเหมือนจักรพรรดิโรมันในอดีตหลายๆรุ่น ถ้าให้มองในแง่ดีก็คือ มันเหมือนเป็นการสื่อว่าทั้งสองคนต่างก็เป็นตำนานนักเตะที่แฟนบอลรักพอกัน คนหนึ่งก็คือ มาราโดนา ซึ่งจะเป็นที่จดจำของแฟนบอลผู้สนับสนุนของ โบคา ไปตลอดกาล ซึ่งรูปปั้นของเขาได้มีการนำมาตั้งเอาไว้เมื่อตอนที่เขาย้ายออกไปจากทีม
“ดิเอโก้ เป็นไอคอนระดับตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่” เวโรนิก้า บรูนาติ นักข่าวของ TNT Sports ในอาร์เจนตินา ได้บอกกับ Sky Sports
“ในสนามกีฬาทุกแห่ง แผนกต้อนรับนักเตะฝั่งตรงข้ามจะรู้สึกตื่นเต้นเสมอ ในเวลาที่ มาราโดนา ไปเยือนพวกเขา และผมคิดว่ามันจะสิ่งที่พิเศษอย่างมาก ขนาดว่านั่นเป็นทีมอื่นนะ แล้วถ้าเขาได้กลับไปที่ บอมโบเนรา ล่ะ สนามแทบแตกเลยล่ะ ต่อให้เขากลับมาในฐานะโค้ช แม้ว่ามันจะมีความแตกต่างจากสมัยที่ตัวของเขาเป็นนักเตะ แต่ความยิ่งใหญ่ของเขามันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยนะ”
หลังจากที่ ดิเอโก้ มาราโดนา กลับมายังถิ่น บอมโบเนรา อีกครั้งในรอบ 5 ปี ปัญหาที่ทำให้ทาง มาราโดนา ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เวลากลับมายังถิ่นเดิมก็คือในเวลานี้ ฆวน โรมัน ริเคลเม่ กำลังเป็นส่วนหนึ่งของทีม ในฐานะของผู้นำสโมสรในตอนนี้ แถมเป็นระดับผู้บริหารด้วย หากเราย้อนกลับไปยังสมัยที่ตัวของ ริเคลเม่ ยังเป็นดาวรุ่งของทีมเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว จริงอยู่ที่ว่าตอนนั้นทั้งคู่มีความสนิทกันในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับมาก เพราะคาแรคเตอร์ของ มาราโดนา ก็คือจะเป็นคนที่พูดจายโส พูดมาก ไม่ค่อยแคร์สื่อ แถมความบ้านี่ก็มีเต็มเปี่ยม ในขณะที่ตัวของ โรมัน ริเคลเม่ เขาเป็นพวกที่ชอบเก็บตัวนิ่งๆ ไม่สุงสิงกับใคร โลกส่วนตัวสูงมาก ไม่ค่อยพูด แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็เคยเป็น “เพื่อนร่วมทีม” โบคา จูเนียร์กันมาก่อน
แต่ว่าเมื่อตอนที่ มาราโดนา ได้ก้าวขึ้นมากุมอำนาจในฐานะหัวหน้าโค้ชของ ทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดสำหรับเตรียมทำศึกฟุตบอลโลกปี 2010 – นั่นคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ที่เคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องต่อกัน มันขาดสะบั้นในทันที และที่น่าเศร้าคือ ริเคลเม่ คือนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในช่วงรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 แต่เมื่อเขาทะเลาะกับ มาราโดนา มันเลยทำให้เขาไม่ได้ไปแอฟริกาใต้ร่วมกับทีมชาติด้วย และแน่นอนว่าตลอดชีวิตค้าแข้งของ ริเคลเม่ เขาเคยเล่นฟุตบอลโลกแค่เพียงสมัยเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ ! ไม่มีการยืนยันได้ว่า ความผิดใจกันของสองตำนานจอมทัพคู่นี้คืออะไร ว่ากันว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว …
“ตราบใดที่มาราโดนาเป็นโค้ช ผมจะไม่กลับไปรับใช้ชาติ” ตัวของ ริเคลเม่ ได้กล่าวเอาไว้ในเวลานั้น
“เราไม่ได้อยู่ในช่วงที่เราสามารถจูนกันได้เลย เราต่างฝ่ายต่างไม่เห็นด้วยต่อนิสัยของกันและกัน ผมไม่ใช่คนรับใช้ของเขาและเป็นที่ชัดเจนว่า เราไม่สามารถทำงานร่วมกันได้”
และความเป็นปรปักษ์ต่อกัน มันก็ได้กลับมาอีกครั้งเมื่อ ริเคลเม่ ค่อนข้างจะให้ท้ายและสนับสนุนให้ตัวของ อามีล ขึ้นมาเป็นประธานสโมสร มันก็เท่ากับว่า มาราโดนา จะมองว่าตัวของ ริเคลเม่ คิดจะใช้เส้นสายของตัวเองในการสนับสนุนคนที่ตัวเองชอบขึ้นมาเป็นประธาน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเลือกตั้ง ก็คือตัวของ มาราโดนา ออกมากล่าวโจมตีตัวของ ริเคลเม่ อย่างรุนแรงที่พยายามสนับสนุน อามีล แบบชัดเจนจนเกินไป
“ถ้า ริเคลเม่ สนับสนุนเขา (อามีล) ล่ะก็ มันคงไม่ต้องไปลุ้นอะไรแล้วล่ะ ชัยชนะมันเห็นๆแล้ว” มาราโดนา ออกโรงแขวะทันที
“ดิเอโก้ ได้มองว่าตัวของ ริเคลเม่ เป็นขยะ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนผ่านทางโทรทัศน์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน โซเชียล มีเดีย เขาสนับสนุน คริสเตียน กริบัวโด้ มากกว่า ซึ่งเขาเป็นผู้สมัครจากกลุ่มทีมงานของ ดาเนียล แองเจลิซี่” มาธิอัส บัลโด้ นักข่าวจากบัวโนสไอเรส ได้บอกกับ สกาย สปอร์ต
แต่ว่าถ้าหาก มาราโดนา คิดจะทำลายชื่อเสียงของ ริเคลเม่ หรือโจมตีริเคลเม่ให้จมดิน มันน่าจะใช้เวลามากกว่าที่คิดแน่นอน เพราะว่าความรักที่แฟนบอลมีต่อตัวของ ริเคลเม่ มันก็มีมากซะจริงๆ ความสำคัญของเขานั้นมันคืออิทธิพลที่ชัดเจนของสโมสรแห่งนี้ อิทธิพลของเขา ใช่ว่าจะด้อยกว่า มาราโดนา เพราะเขาสามารถทำให้บุคคลอย่าง กริบัวโด้ ที่มีชื่อเสียงติดอันดับบุคคลที่มีอิทธิพลในประเทศ 10 อันดับแรกไม่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานสโมสรในครั้งนี้ สโมสรประกาศว่า อามีล ได้รับคะแนนโหวตร้อยละ 52.8 ส่วนตัวของ กริบัวโด้ ได้รับไปเพียงร้อยละ 30.6 เท่านั้น สำหรับ กริบัวโด้ มันสะท้อนให้เห็นเลยว่า ทัศนคติของแฟนบอลผู้สนับสนุน โบคา จูเนียร์ ที่มีต่อวีรบุรุษของสโมสรทั้งสองคนเป็นเช่นไร …
“ริเคลเม่ กับ มาราโดนา ในสายตาของแฟนบอลนั้นในเวลานี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ริเคลเม่ เป็นไอดอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรไปแล้ว” เขากล่าว
“พวกเขารักกันมากในสมัยเป็นเพื่อนร่วมทีม แต่มาแตกคอกันก่อนไปเล่นฟุตบอลโลก นับตั้งแต่นั้นมา พวกเขาไม่เคยพูดคุยกันอีกเลย และเมื่อใดก็ตามที่แฟนบอลที่ บอมโบเนรา ต้องเลือกข้าง พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อ ริเคลเม่”
ทำไมแฟนบอลถึงเลือก ริเคลเม่ มันก็เป็นเพราะว่าไม่เพียงแต่เขาจะใช้เวลาถึง 6 ฤดูกาลในการเล่นที่สโมสรแห่งนี้ในฐานะดาวรุ่ง จนกลายเป็นโคตรนักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมที่สุดอีกคนหนึ่ง แต่เขายังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ โบคา สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างเหลือเชื่อในหลายๆรายการ ทั้งการคว้าแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอร์เรส คัพ ทั้งในยุคแรกของ ริเคลเม่ แล้วก็รวมถึงตอนที่เขากลับมาเล่นกับทีมในรอบที่ 2 และตอนนี้ เขากลับมาในตำแหน่งรองประธานแล้ว เขาอาจจะมีส่วนสำคัญในการพาทีมกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในสมัยที่เขาค้าแข้งในสนามเองก็ได้
จากการเปรียบเทียบช่วงเวลาที่ตัวของ มาราโดนา ระเบิดฟอร์มให้กับ โบคา จูเนียร์ ตัวของเขากลับเคยเล่นให้กับทีมดังของ บอมโบเนรา เพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้นในรอบแรกของเขากับทีมนี้ … สมัยที่เขายังเป็นดาวรุ่ง เขาได้เล่นให้กับทีมในบ้านเกิดของเขานั่นคือ อาเจนติโนส จูเนียร์ และเขาอยู่ที่นั่นหลายปีกว่าจะย้ายมา โบคา และเขาก็อยู่กับ โบคา แค่ปีเดียวเท่านั้นก่อนจะย้ายไปเล่นในสเปนกับ บาร์เซโลนา แถมเขายัง “ยิงประตูได้มากกว่าสมัยอยู่กับ โบคา” เมื่อครั้งที่เขาไปเล่นให้กับ นาโปลี ซึ่งแน่นอนว่าแฟนบอลคงจะไม่รู้สึกอินมากเท่าไหร่ที่ตำนานหมายเลข 10 รายนี้ใช้เวลาช่วงที่พีคๆอยู่กับทีมแค่ปีเดียว ก่อนจะเก็บกระเป๋าบินไปหากินไกลถึงยุโรปนั่นเอง
สำหรับแฟนบอลผู้สนับสนุนทีมที่อายุน้อยๆนั้น มันก็มีแนวโน้มเช่นกันว่า พวกเขาจะเอาสถิติแบบนี้มาเป็นตัววัดว่า มาราโดนา อยู่กับทีมไม่นานเท่ากับ ริเคลเม่ แล้วแบบนี้พวกเขาจะไปอินกับตำนานของจอมทัพซ้ายพิฆาตรายนี้ได้ยังไง แถมอารมณ์ร่วมต่อเกมของมาราโดนา และภาพลักษณ์ที่ดูเป็นแบดบอยของ มาราโดนา ก็มีมากเกินไป จนทำให้แฟนบอลรุ่นใหม่ๆนั้นรู้สึกศรัทธาในฝีเท้าของ ริเคลเม่ มากกว่าจะเป็น มาราโดนา
แต่สำหรับ กริบัวโด้ เขามองไปอีกแบบหนึ่ง …
“ประสบการณ์ครั้งแรกของ มาราโดนา ที่มีกับสโมสรนั้น โอเคเขาอาจจะอยู่กับทีมเพียงปีเดียว แต่ในช่วงเวลานั้น มาราโดนา ก็ยังอายุน้อยมากนะครับ” เขาอธิบาย
“การที่เขาเลือกจะย้ายมาเล่นให้กับ โบคา มากกว่าจะย้ายไปเล่นให้กับ ริเวอร์เพลท มันก็สามารถช่วยสร้างชื่อเสียงของพวกเขา (โบคา) ให้กลายเป็นสโมสรได้มากขึ้น สโมสรแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แฟนบอลรุ่นเก่าจะรู้สึกรักเขาจริง ๆ พวกเขารู้สึกมีอารมณ์ร่วมอย่างมากเมื่อมีการพูดถึงตัวของเขา และพวกเขาก็ยังจดจำวันเวลาเหล่านั้นได้ดี”
“ทุกวันนี้ปัญหาคือคุณมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่พูดคุยกันใน โซเชียล มีเดีย ก็คุณรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์ของทีมนั้นไม่สำคัญแค่เพียงแค่เรื่องจำนวนแชมป์ที่ทีมคว้ามาครองได้ แต่ผมอยากให้พวกเขาคิดว่า มาราโดนา นั้นเป็นตำนานที่ยอดเยี่ยมของทีมเสมอ สำหรับสิ่งที่เขาทำกับทีมชาติก็ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพราะว่าตัวของเขาก็เติบโตมากับ โบคา ด้วยหรอกเหรอ ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับว่า มาราโดนา เป็นหนึ่งในไอดอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร มันก็ดูจะรุนแรงเกินไป”
เรื่องราวทั้งหมดนี้ มันได้เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น แล้วยิ่งในช่วงก่อนหน้าที่เขาจะกลับมาเยือนถิ่นเก่า ทางตัวของ อามีล ที่โดนแฟนบอลรุ่นเก่าตราหน้าว่าเหมือนเขาจะไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่กับการจะประกาศเกี่ยวกับเรื่องที่ มาราโดนา จะกลับมาเยือน บอมโบเนรา ในฐานะโค้ชของ กิมนาเซีย มันเลยสร้างความเคืองให้กับแฟนบอลรุ่นเก่าพอสมควร และทาง กริบัวโด้ ก็ไม่ยอมแพ้ที่จะหาเรื่องโจมตีประธานคนปัจจุบันต่อไป โดยมันเหมือนเป็นการหาเสียงเลือกตั้งประธานเผื่อไว้ในอนาคตเลยนั่นเอง
“เมื่อมาราโดนามาถึง บอมโบเนรา … ” เขาเขียนบน Twitter
“สนามกีฬาแห่งนี้และสโมสร ควรปฏิบัติต่อเขาด้วยความรักแบบเดียวกับที่ ดิเอโก้ มีความรักให้กับโบคามาตลอด ผู้ที่ไม่รัก ดิเอโก้ ก็เหมือนกับว่าพวกเขาไม่รักแม่ของพวกเขาทั้งหลาย”
ในเมื่อความบางหมางมันเป็นแบบนี้มานานหลายสิบปีแล้ว และตอนนี้ตัวของ มาราโดนา จะต้องกลับมาเยือนถิ่นเก่าด้วยอารมณ์ที่ไม่จอย แถมบนอัฒจันทร์ ก็มีโคตรตำนานรุ่นน้องที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูเก่าของตัวเองอย่าง ริเคลเม่ คอยนั่งมองดูความบ้าบิ่นของเขาอยู่ตลอดเวลา เขาจะทำยังไง ดังนั้นแล้ว สิ่งที่ทุกคนคาดหวังว่า มาราโดนา จะทำผลงานยังไงภายในสนามกีฬาที่เขาทั้งรัก และชิงชังคนที่ทำงานอยู่ภายใน มันจะเป็นยังไงกันล่ะทีนี้ ? บรูนาติ ยังคิดว่า มาราโดนา อาจจะได้รับกำลังใจจากแฟนบอลมากขึ้น และทางตัวของ กริบัวโด้ ก็เห็นด้วยเช่นกัน
“ในเกมสุดท้ายของเขานั้น แฟนบอลก็ตะโกนเรียกชื่อของเขากันอย่างกึกก้อง และพวกเขาก็ร้องเพลงเชียร์เขา ในขณะที่การร้องเพลงเชียร์ให้กับ ริเคลเม่ ผมคิดว่าผู้คนมากมายที่ได้ไปร่วมเชียร์ในสนามกีฬาน่าจะรู้ดีว่า มาราโดนา ก็เป็นไอคอนของ โบคา เช่นกัน แต่บางทีเพราะว่าฟุตบอลยุคสมัยใหม่นั้น มันอาจจะมีแฟนบอลจำนวนพอสมควรที่เป็นแฟนบอลรุ่นใหม่ อายุน้อยๆ หรือว่าเพิ่งมาเชียร์ทีม พวกเขาน่าจะคุ้นเคยกับภาพลักษณ์ของ ริเคลเม่ มากกว่า เพราะเขาก็เพิ่งเลิกเล่นฟุตบอลไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง ริเคลเม่ เกิดมาในยุคที่แฟนบอลรุ่นใหม่ทันดูเขาเล่นมากกว่า มาราโดนา”
สำหรับตัวของ มาราโดนา การที่เขาจะกลับมายังถิ่นเก่าในฐานะมิตร มาด้วยสันติ มันคงจะไม่ใช่เขา มันคงจะต้องเป็นหน้าที่ของทูต ที่จะเป็นคนจัดการกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“ผมไม่สนใจว่าพวกเขาจะยังคงยกย่องผมหรือไม่ และผมก็อยากจะบอกว่า ผมยังรักและคิดถึงแฟนบอลที่นี่ทุกคน แต่มันไม่ใช่สำหรับ ริเคลเม่ อย่างแน่นอน”
แต่ว่าสิ่งที่ตัวของ ริเคลเม่ อยากจะบอกตัวของ มาราโดนา ก็น่าจะเป็นคำพูดว่า
“นรกที่ ลา บอมโบเนรา กำลังรอนายอยู่นะ ดิเอโก้” จาก … “นิว มาราโดนา”
เข้มข้นทุกสาระฟุตบอล บ้านผลบอล ที่ “MVPKICK”